ระบบดรอปชิป (Dropship)

หลายคนเข้าใจว่าดรอปชิป (Dropship) เป็นเพียงการนำสินค้าจากร้านค้าที่ตัวแทนสนใจมาขาย เพียงแค่ไปติดต่อร้านค้าเพื่อขอข้อมูลรายละเอียด รูปภาพสินค้า โดยที่ตัวแทนไม่ต้องสต๊อกสินค้าเอาไว้ และไม่ต้องส่งของเอง โดยตัวแทนสามารถบวกกำไรเข้าไปอยู่ในสินค้านั้น ๆได้ หรือรับเป็นค่าคอมมิชชั่น เมื่อขายได้ก็แค่เพียง แจ้งออเดอร์โอนเงินชำระให้กับเจ้าของร้านค้า ส่งของให้กับผู้ซื้อสินค้า โดยที่ตัวแทนไม่จำเป็นต้องส่งสินค้าเอง

ซึ่งบางครั้งการดรอปชิปจริงๆอาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลายๆคนเข้าใจเพราะบางร้านหรือบางแบรนด์ ที่เปิดรับตัวแทนเป็นจำนวนมาก อาจไม่สามารถดูแล คอยตอบปัญหาต่างๆ เช่น การขอรูปรายละเอียดข้อมูลสินค้า ราคา ค่าจัดส่ง ส่วนลด  สต๊อก การแจ้งเลขติดตามพัสดุและสถานะการจัดส่ง รวมไปถึงรายงานการขายต่างๆ ได้ทันท่วงที ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อมูลผิดพลาดซ้ำซ้อน ทำให้ต้องเสียเวลาเพิ่มทั้งร้านค้าและตัวแทน และยังอาจพลาดออเดอร์จากลูกค้าไปอีกด้วย

ในบทความนี้ XSelly จะมาแชร์ว่า ทำไมต้องมีระบบดรอปชิป และ ระบบดรอปชิปที่ดีควรเป็นอย่างไร

ทำไมต้องมีระบบดรอปชิป

เพราะทุกช่วงเวลาในการขายของนั้นสามารถเกิดได้ขึ้นทุกวัน 24 ชั่วโมง ไม่ว่าเจ้าของร้านค้าเองหรือตัวแทนก็คงไม่อยากพลาดข้อมูลต่างๆที่สำคัญ ทั้งออเดอร์ เช็คสต๊อก เช็คยอดการโอน รวมไปถึงการจัดส่ง ตรวจเช็คสถานะพัสดุ รายงานการขาย กำไร ค่าคอมมิชั่น ต่างๆ จึงต้องใช้ระบบดรอปชิป(Dropship) ที่สามารถเป็นตัวกลางดูแลทุกอย่างได้ครบ จบในที่เดียว ทำให้ผู้ใช้งานระบบดรอปชิปทั้งเจ้าของร้านค้าและตัวแทน ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ปิดการขายง่ายและเร็ว และสามารถมีเวลาสร้างธุรกิจ ขยายกิจการได้มากขึ้นอีกด้วย

9 ข้อของระบบดรอปชิปที่ดีต้องมี…..

ก่อนที่จะเลือกระบบดรอปชิปมาใช้งาน XSelly ขอนำเสนอ 9 ข้อ พิจารณา เพื่อให้คุณเลือกระบบดรอปชิปได้ดีที่สุด เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด ดังนี้

1.ระบบที่ดีต้องมี ให้รับตัวแทนได้ไม่จำกัด (ฟรีได้ยิ่งดี)

จำนวนของตัวแทนมีผลอย่างสำคัญยิ่งกับการกระจายสินค้าของร้านค้า  เพราะไม่ใช่ตัวแทนทุกคนจะขายเก่ง หรือถูกจริตกับสินค้าของทางร้านหรือแบรนด์ ดังนั้นยิ่งมีการรับตัวแทนขายเยอะมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ระบบดรอปชิปที่ดี ควรรองรับการมีตัวแทนในปริมาณมากโดยมีค่าใช้จ่ายค่าระบบกับทางร้านหรือแบรนด์น้อย หรือฟรีได้ยิ่งดี!

2.ระบบที่ดีต้องมี แอปให้ตัวแทนใช้

หมดยุคบังคับให้ตัวแทนทุกคนใช้งานระบบผ่านหน้าคอมพิวเตอร์ PC หรือโหลดเว็ปผ่านมือถือ ระบบดรอปชิปที่ดี ต้องมีแอปให้ใช้ เพราะ…

  • ตัวแทนสมัครใช้งานได้ง่าย สะดวก เข้าถึงข้อมูลสินค้า สต๊อก เปิดออเดอร์ และอื่นๆได้รวดเร็ว
  • ตัวแทนสามารถรับ notification (แจ้งเตือน) ได้เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น การเพิ่มสินค้าใหม่ การจัดส่งสินค้า และการแจ้งชำระการคอมมิชชั่น เป็นต้น
  • ตัวแทนจะอยากขายให้ร้านค้าหรือแบรนด์มากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่า ตัวแทนส่วนใหญ่ขายสินค้าดรอปชิปเป็นงานเสริม ซึ่งระบบที่มีแอป จะช่วยเพิ่มอิสระให้ตัวแทนสามารถปิดการขายที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ทำตั้งแต่คุยกับลูกค้าผ่านแชท เช็กสต๊อก เปิดออเดอร์ จนถึงแจ้งเลขติดตามพัสดุให้ลูกค้า ง่ายจบในมือถือ

3.ระบบที่ดีต้องมี ข้อมูลสินค้าที่ตัวแทนสามารถนำไปใช้ได้สะดวกง่าย (ทวีคูณการขายได้ยิ่งดี)

จะดีกว่าไหมถ้าทำให้ตัวแทนสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าต่างๆเช่น รูปภาพ ข้อมูลรายละเอียดสินค้า ราคาขายสมาชิก เช็คสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์ได้เอง พร้อมทำให้ตัวแทนสามารถเอารูปไปใช้แชร์ขาย ตั้งราคาขายบวกกำไรได้เลยโดยเจ้าของร้านไม่ต้องมาส่งข้อมูลแจ้งให้ตัวแทนบ่อยๆ เจ้าของร้านอัพเดทข้อมูลครั้งเดียวก็สามารถส่งถึงตัวแทนของเจ้าของร้านที่มีอยู่ทั้งหมดได้ทันที

จะดียิ่งกว่าถ้าตัวแทนของร้านค้าสามารถรับตัวแทนต่อไปได้อีกเพื่อทวีคูณการขายให้กับร้านค้าหรือแบรนด์ ระบบดรอปชิปที่ดีควรทำให้ตัวแทนแต่ละชั้นดึงสินค้าเพื่อสร้างแคตตาล็อกและตั้งราคาขายของตัวเองเองได้ง่าย โดยเชื่อมสต๊อกเดียวกันกับทางร้านค้า รับแจ้งเตือนสถานะออเดอร์พร้อมกันทั้งสายเมื่อมีการจัดส่ง ลูกค้าปลายทางเช็กเลขพัสดุและสถานะการจัดส่งในเองอัตโนมัติ ทันทีที่มีการจัดส่งออกจากโกดัง

4.ระบบที่ดีต้องมี สต๊อกแบบเรียลไทม์ให้เช็คได้

การเช็คต๊อกแบบเรียลไทม์ทำให้ตัวแทนขายสะดวกในการเช็คของเปิดออเดอร์ได้เลยทันที ลดการผิดพลาดในการเปิดออเดอร์ซ้ำซ้อน เช่น สินค้าที่มีความนิยมในการสั่งซื้อ อาจเกิดการแย่งชิงในการสั่งซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้ ถ้ามีระบบดรอปชิปที่ดี ที่สามารถเช็คสต๊อกสินค้าได้แบบเรียลไทม์ก็จะทำให้ตัวแทนสามารถไปแจ้งลูกค้าและนำเสนอตัวเลือกอื่นๆได้เลยทันที เพื่อปิดการขาย

5.ระบบที่ดีต้องมี การเปิดออเดอร์สั่งซื้อสินค้าที่ง่าย

เมื่อเช็คสต๊อกง่าย ก็สามารถปิดการขาย เปิดออเดอร์การสั่งซื้อสินค้ากับทางเจ้าของร้านได้ทันที แต่ถ้าตัวแทนขายและเจ้าของร้านมีออเดอร์จำนวนมากก็อาจจะส่งผลทำให้สับสนกับออเดอร์ ยอดสั่งซื้อ ตัวแทนคนไหนขาย รวมไปถึงการพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุเพื่อเตรียมจัดส่งอาจมีการตกหล่นของออเดอร์หรือทำซ้ำซ้อนกันได้  ถ้ามีระบบดรอปชิปที่ดี ที่สามารถดูแลได้ตั้งแต่เปิดออเดอร์ แจ้งชำระ จัดส่ง ไปจนถึงดูสถานะติดตามพัสดุ ได้เลยในที่เดียวก็จะลดปัญหาต่างๆไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว

6.ระบบที่ดีต้องมี ระบบการรับชำระเงินที่ดี (Payment)

เพราะไม่ใช่เป็นการขายจากร้านค้าโดยตรงถึงลูกค้าแบบ 1-1 ทำให้จำนวนการโอนเงินเพิ่มขึ้น ทำให้อาจเกิดปัญหาเรื่องการโอนเงินต่อไปให้เจ้าของร้านค้ายิ่งออเดอร์เยอะก็จะสับสนเรื่องการชำระระหว่างร้านค้า ตัวแทนจำหน่าย และลูกค้าได้ในประเด็นต่างๆดังนี้

  • มีใครโอนยอดอะไรของบิลออเดอร์ไหนเข้ามาแล้วบ้าง
  • ยอดโอนรวมค่าจัดส่งสินค้า และส่วนลดแล้วหรือยัง
  • ยอดโอนมัดจำไปเท่าไหร่ เหลือค้างชำระอีกเท่าไหร่
  • ยอดชำระได้รับการยืนยันจากผู้รับชำระหรือยัง และเมื่อไหร่
  • เพื่อป้องกันการทุจริตทางร้านค้าต้องการให้พนักงานบัญชี(หรือเจ้าของร้าน) สามารถตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของสลิปได้ง่าย
  • ร้านค้าต้องการ จัดส่งก่อนชำระ เนื่องจากให้เครดิตกับผู้ซื้อไว้ชำระในภายหลังได้
  • ต้องการรวมยอดชำระหลายออเดอร์ไว้ในสลิปเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการชำระและยืนยัน
  • ต้องการดูประวัติการชำระพร้อมรูปสลิปเพื่อการตรวจสอบภายหลัง

นอกเหนือจากประเด็นข้างต้นแล้ว รูปแบบการชำระที่นิยมในขณะนี้คือการชำระเงินแบบเก็บเงินปลายทาง หรือที่เรียกง่ายๆว่า COD ซึ่ง การเก็บเงินแบบ COD กับลูกค้าของตัวแทน สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบหลักๆดังนี้

1. ตัวแทนไม่ต้องชำระเงินให้เจ้าของร้านก่อน ร้านจะเป็นคนเก็บเงิน จากลูกค้ามาก่อนเมื่อลูกค้ารับสินค้าชำระเงินปลายทางเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าของร้านก็จะโอนเงินส่วนต่างคืนกลับไปให้ในระบบของตัวแทน

2.ตัวแทนชำระค่า COD แทนลูกค้าก่อน ตัวแทนทำการชำระค่าส่วนต่างของราคาขายตัวแทนก่อน เช่น ตัวแทนขายเสื้อยืดในราคา 300 บาทให้กับลูกค้า แต่ตัวแทนรับมาจากเจ้าของร้านค้าที่ไปเป็นตัวแทนในราคา 200 บาท เพราะฉะนั้นตัวแทนจึงต้องจ่ายเฉพาะค่าส่วนต่างในราคาตัวแทนนั่นก็คือ 200 บาท และเมื่อเจ้าของร้านส่งสินค้าให้ลูกค้าแล้ว เมื่อลูกค้าชำระเรียบร้อยเจ้าของร้านค้าจะโอนเงิน 300 บาทจากลูกค้าคืนตัวแทน

ระบบดรอปชิปที่ดีจึงต้อง มีระบบการชำระเงินที่ดีรองรับทุกรูปแบบการชำระข้างต้น ต้องมีการจัดการขั้นตอนการชำระเงิน สถานะการชำระเงินในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจนว่าใครโอนเงินเท่าไหร่ ต้องคืนเท่าไหร่ รองรับการชำระหลายครั้งในแต่ละออเดอร์ได้ (เช่นการมัดจำและชำระส่วนที่เหลือ) และสามารถสรุปยอดเงินที่ต้องคืนได้ด้วย ตรวจสอบดูประวัติการชำระได้จากทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องที่สำคัญและละเอียดอ่อน จึงไม่ควรมีปัญหาในเรื่องนี้

7.ระบบที่ดีต้องมี การเชื่อมต่อกับระบบขนส่งที่ดี ตรวจสอบสถานะพัสดุได้แบบเรียลไทม์

เมื่อร้านค้าส่งของแล้วตัวแทนต้องสามารถรู้ได้ทันทีว่ามีการจัดส่งของให้แล้วโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องให้ร้านค้าหรือตัวแทนคอยตามเลขติดตามสถานะพัสดุกันอีกในแชท ตัวแทนต้องสามารถดูผ่านแอปหรือเว็บได้เลยทันทีและลูกค้าก็สามารถดูสถานะการจัดส่งได้เลยทันที ทำให้ตัวแทนดรอปชิปลดการทำงานซ้ำซ้อนไปได้อีกเยอะเลย

8.ระบบที่ดีต้องมี ระบบการคิดส่วนลดและค่าคอมมิชั่น

ในปัจจุบันมีร้านค้าหรือเจ้าของแบรนด์ดัง หลายๆเจ้าที่เปิดรับตัวแทนมีการจัดโปรโมชั่น  ส่วนลด ค่าคอมมิชั่น หรือกิจกรรมอื่นๆ ก็มักจะสร้างความเชื่อมั่น ความน่าไว้ใจให้กับตัวแทนและเจ้าของร้านหรือเจ้าของแบรนด์ โดยการใช้วิธีชำระตรงถึงบัญชีเจ้าของร้านหรือเจ้าของแบรนด์โดยไม่ผ่านตัวแทน ระบบที่ดีจึงต้องสามารถตรวจสอบเช็คออเดอร์ยอดการโอนได้ทันทีเพื่อทำให้ร้านค้าหรือเจ้าของแบรนด์ มีเวลาคำนวนค่าคอมมิชั่นคืนให้ตัวแทนได้อย่างรวดเร็วและการโอนตรงถึงร้านค้าหรือเจ้าของแบรนด์แบบไม่ผ่านตัวแทน ทำให้สามารถควบคุมราคาขายและการตัดราคากันเองของตัวแทนได้อีกด้วย

9.ระบบที่ดีต้องมี การสรุปรายงานการขายที่เข้าใจง่ายใช้ได้จริง

รายงานการขายคืออีกสิ่งที่สำคัญของการบริหารจัดการร้านค้า แต่หลายๆคนหลายๆร้านค้ามักประสบปัญหากับการจัดเก็บเอกสารการทำบัญชีต่างๆระบบดรอปชิที่ดีจึงต้องสามารถเข้ามาดูแล การจัดการยอดขายรายวัน ยอดขายของร้าน รายได้กำไร รวมไปถึงเช็คสินค้าขายดี ยอดขายแอดมิน ยอดขายตัวแทน ซึ่งมีผลกับการคิดค่าคอมมิชั่น รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการการขาย

บทสรุป

XSelly หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาเลือกระบบดรอปชิป (Dropship) ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ เพิ่มยอดขายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมทางทีมงานยินดีให้คำปรึกษาฟรีได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด