XSelly มีระบบตัวแทนที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณและเจ้าของร้านทำงานได้ง่ายขึ้นด้วยระบบจัดการ ซื้อ-ขาย เปิดบิล ออเดอร์ สต๊อก การชำระเงิน จนไปถึงการจัดจัดส่ง ทำให้ตัวแทนขายสามารถทำงานได้ที่ ทุกเวลา ลดข้อผิดพลาด ลดการทำงานซับซ้อน วันนี้เราจะมาแนะนำการทำงานของระบบตัวแทน XSelly ว่าทำงานกันยังไงกันค่ะ
1. สมัครเข้าร้านยังไง
เมื่อได้ทำการพูดคุยกับร้านขายส่งในช่องทางต่างๆจากโซเชียลมีเดียแล้วว่าต้องการเป็นตัวแทนขายกับร้านขายส่งที่ใช้ระบบ XSelly ในการจัดการสต๊อก ออเดอร์ สิ่งแรกที่ควรทำคือการดาวน์โหลดแอป XSelly มาติดตั้งและสมัครเข้าใช้งาน หลังจากกดขอเข้าร่วมกลุ่มตัวแทนของร้านขายส่งแล้ว จะขึ้นสถานะรออนุมัติ คือรอให้ร้านขายส่งอนุมัติเข้าร่วมกลุ่ม เมื่ออนุมัติแล้วจะสามารถเข้าไปดูสินค้า/ดึงสินค้า ในร้านขายส่งได้
2.ทำไมต้องตั้งค่าข้อมูลส่วนตัว LINE ID หรือ Facebook IDตั้งค่าข้อมูลส่วนตัวดียังไง
เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรก อย่าลืมเข้าไปตั้งค่าข้อมูลส่วนตัวของฉัน เพื่อใส่ข้อมูลช่องทางการติดต่อ Line ID หรือ Facebook ID เพื่อให้ผู้ขายส่งหรือตัวแทนขายสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณได้สะดวก รวดเร็วผ่าน เช่น ในกรณีที่มีสต๊อกหมด หรือ ขอปลดล็อกออเดอร์เพื่อแก้ไขข้อมูล
คุณสามารถเพิ่ม LINE ID หรือ Facebook ID ได้โดย กดที่ tab ที่ 3 (รูป …) > กดปุ่ม “ข้อมูลส่วนตัว” > กดปุ่ม “แก้ไข” ด้านขวาบน
3. ทำไมต้องตั้งค่าเพิ่มบัญชีรับชำระ
เพิ่มบัญชีรับชำระของคุณ เช่น บัญชีธนาคารกสิกร SCB หรือ Promptpay เป็นต้น ไว้ในระบบเพื่อใช้ในการบันทึกชำระของร้านคุณ และแสดงให้คู่ค้าของคุณ (ร้านขายส่ง หรือตัวแทน) สามารถนำข้อมูลเลขที่บัญชีไปชำระให้คุณได้โดยบันทึกรับชำระเหล่านี้จะสามารถตรวจสอบดูย้อนหลังได้ในรายงานการรับชำระตามบัญชีได้อีกด้วย
4. ดูสินค้าจากร้านขายส่งยังไง
เมื่อเราได้รับอนุมัติเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม(ตัวแทน)แล้ว เราจะสามารถดูสินค้าจากร้านขายส่งได้จาก 3 วิธีดังนี้
- ดูจากหน้าสร้างออเดอร์ ในหน้าสร้างออเดอร์ ที่หัวข้อ “รายการสินค้า” จะสามารถเลือกร้านขายส่งที่ต้องการ และกดปุ่ม เพิ่มสินค้าจากร้านขายส่ง ได้เลย
- ข้อดี คือ สามารถเลือกสินค้ามาใส่ออเดอร์ได้ทันที
- ข้อเสีย คือ ราคาที่ระบุในหน้าออเดอร์จะเป็นราคาทุนที่เราต้องจ่ายให้ทางร้านผู้ขายส่ง หากเราต้องการแชร์ลิงก์ออเดอร์ให้ลูกค้าแบบแสดงราคาสินค้าและยอดออเดอร์เราจะต้องมาแก้ไขราคาใหม่ทุกครั้ง โดยแตะที่ช่องราคาและพิมพ์ค่าสินค้าที่เราคิดกับลูกค้าได้เลย เพื่อให้เป็นยอดที่แสดงในลิงก์ออเดอร์เป็นยอดที่ลูกค้าต้องชำระเรา (หากไม่ต้องการแก้ยอดสินค้าในลิงก์ออเดอร์ ก็สามารถปิดการแสดงราคาและยอดขาย ในหน้ารายละเอียดออเดอร์หลังสร้างออเดอร์เสร็จ
2. ดึงสินค้าเข้าคลัง หมายถึง การนำสินค้าจากร้านขายส่งมาไว้ในคลังสินค้าในร้านของคุณ ซึ่งการดึงสินค้าหรือไม่ดึงสินค้าเข้าคลังสินค้าของคุณนั้น มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการใช้งานการขายของร้านคุณเอง ข้อดี คือ แบ่งได้2แบบหลักๆคือ
- ไม่ต้องแก้ยอดขายสินค้าเองทุกออเดอร์ เหมาะสำหรับสินค้าขายที่คุณต้องเปิดบิลขายบ่อยๆทำให้ไม่ต้องมานั่งแก้ราคาขายใหม่กับสินค้าเดิมๆใหม่ทุกๆครั้ง ทำให้สามารถเปิดออเดอร์ขายได้ง่ายขึ้น
- ดึงเมื่อคุณมีตัวแทนต่อ คือเมื่อคุณต้องการมีตัวแทนต่อจากร้านของคุณเองอีกหนึ่งขั้น การดึงสินค้าเข้าคลังสินค้าของร้านคุณจะทำให้ตัวแทนที่ต้องการมาเป็นตัวแทนต่อจากคุณสามารถเห็นสินค้าและราคาที่คุณได้ตั้งราคาขึ้นมาใหม่แทนราคาขายของร้านขายส่งที่คุณไปเป็นตัวแทน
- ข้อเสีย คือ ถ้าสินค้าบางชนิดมีตัวเลือกคุณลักษณะเยอะ เช่น สี ไซส์ ขนาด ก็อาจเสียเวลาในการใส่ยอดราคาขายเยอะหน่อย
3. ดูจากหน้าร้านผู้ขายส่ง คือหน้าที่ตัวแทนใช้สำหรับสมัครเป็นสมาชิกตัวแทนร้านขายส่ง เมื่อเป็นสมาชิกแล้วจะสามารถกดเข้าไปตามร้านขายส่งที่คุณได้เป็นตัวแทน เพื่อดูสินค้าหรือดึงสินค้าเข้าร้านของคุณได้เลยทันที
5. ลงออเดอร์ยังไง
ดูวิธีการสร้างออเดอร์ได้ที่นี่
การสร้างออเดอร์เพื่อเปิดออเดอร์ซื้อสินค้า สามารถเลือกสินค้าได้จาก 2 แหล่งดังนี้ เปิดได้ 2 วิธี
-
สินค้าเปิดจากร้านฉัน (ตัวเอง) โดยสินค้าในร้านฉัน มีได้ 2 วิธี ซึ่งคือ
- ฉันสร้างสินค้าเอง ซึ่งจะเป็นสินค้าที่สต๊อกเอง จัดส่งเอง
- สินค้าที่ดึงมาจากร้านขายส่ง (Dropship) ซึ่งจะเป็นสต๊อกเดียวกับทางร้านขายส่ง และร้านขายส่งจะเป็นผู้จัดส่งให้ เพียงแต่ว่าเรากำหนดราคาขายของสินค้า(ที่บวกกำไรเพิ่มแล้ว) ตอนที่ดึงสินค้าเพียงครั้งเดียว
- สินค้าจากร้านขายส่ง ซึ่งจะเป็นสต๊อกเดียวกับทางร้านขายส่ง และร้านขายส่งจะเป็นผู้จัดส่งให้ โดยราคาของสินค้าที่เลือกเข้ามาในออเดอร์นี้จะเป็นราคาทุนของเรา (ตัวแทน) ซึ่งถ้าต้องการแก้ราคาสินค้าตามที่เราขายให้ลูกค้าก็สามารถแก้ไขได้ ออเดอร์ต่อออเดอร์เลย
6. ค่าส่งเท่าไหร่
การคิดค่าจัดส่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ผู้ขายส่งและตัวแทนขายสามารถทราบต้นทุนของค่าส่งได้ก่อนที่จะมีการโอนชำระในแต่ละออเดอร์ ลดปัญหาการคำนวณค่าจัดส่งที่ผิดพลาด
7. ทำไมออเดอร์เราไม่ได้ส่งซักที?
ถ้าสงสัยว่าทำไมสินค้าของออเดอร์นี้ไม่จัดส่งซักที ให้ตัวแทนสังเกตและเช็คสถานะได้ดังนี้
สถานะที่ถูกต้องของออเดอร์พร้อมจัดส่งนั้นควรเป็น “รอผู้ขายส่ง > จัดส่ง”
สถานะนี้แสดงว่า ออเดอร์ได้รับการยืนยันจากทั้งผู้ซื้อ(ตัวแทน) และผู้ขาย(ร้านผู้ขายส่ง) แล้ว และร้านผู้ขายส่งได้ยืนยันยอดชำระที่เท่ากับยอดออเดอร์แล้วด้วย ซึ่งก็คือออเดอร์นี้เหลือเพียงรอการจัดส่งจากร้านผู้ขายส่ง เมื่อออเดอร์ถูกบันทึกว่าจัดส่งแล้ว สถานะก็จะเปลื่ยนไปเป็น เสร็จสิ้น
ทำไมออเดอร์ยังไม่ได้จัดส่ง สังเกตจากสถานะออเดอร์ ดังนี้
- รอผู้ขายส่ง > ยืนยันออเดอร์ คือติดรอให้ผู้ขายส่งยืนยันออเดอร์
- รอผู้ขายส่ง > ยืนยันรับชำระ คือติดรอให้ผู้ขายส่งยืนยันการแจ้งชำระของเรา
- รอฉัน > ยืนยันออเดอร์ คือ รอฉันยืนยันที่ออเดอร์โดยการกดปุ่ม “ยืนยันออเดอร์”
- รอฉัน > แจ้งชำระผู้ขายส่ง คือ รอฉันแจ้งชำระเงินที่ออเดอร์ซื้อให้กับผู้ขายส่ง
- รอฉัน > ยืนยันรับเงินคืน ใช้ในกรณีโอนชำระเงินเกินจำนวนค่าสินค้าและค่าจัดส่ง ผู้ขายส่งจะทำการคืนเงินส่วนเกินคืนให้ตัวแทนก่อนทำการจัดส่งสินค้า
8. ออเดอร์ซื้อ ออเดอร์ขาย คืออะไร
เมื่อเราในฐานะตัวแทนเปิด 1 ออเดอร์ ก็จะมีผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย คือ ร้านผู้ขายส่ง เรา และลูกค้าของเรา จึงมี ออเดอร์ซื้อและออเดอร์ขายเกิดขึ้นมาเพื่อบันทึกยอดที่ต่างกัน
9. ลิงก์ออเดอร์คืออะไร
ลิงก์ออเดอร์หมายถึงลิงก์ที่แสดงข้อมูลรายละเอียดออเดอร์ ประวัติการชำระ สถานะการจัดส่ง โดยลิงก์นี้จะออกมาจากระบบ XSelly โดยตรง คุณสามารถส่งลิงก์ให้ลูกค้าเพื่อใช้ตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้เลยทันทีที่สร้างออเดอร์และถ้าไม่ต้องการให้ลูกค้าเห็นราคาและยอดรวมก็สามารถทำได้
10. เมื่อไหร่จึงซ่อนยอดและราคาในลิงก์ออเดอร์
การซ่อนยอดและราคา เหมาะกับร้านค้าที่ไม่ต้องการให้ลูกค้าหรือคนที่มีลิงก์ออเดอร์นี้เห็นราคาขายและยอดรวมราคา เนื่องจากบางครั้งร้านค้าที่เป็นตัวแทนขายเปิดออเดอร์โดยเลือกสินค้าจากร้านผู้ขายส่งโดยตรง และไม่ได้แก้ไขราคาสินค้าในการเปิดออเดอร์ จึงทำการซ่อนยอดและราคาไว้เพื่อไม่ให้ลูกค้าเห็นราคานั่นเอง
โดยสามารถตั้งค่าซ่อน/แสดงราคาและยอดในลิงก์ออเดอร์ได้ 2 แบบคือ
- ในแต่ละออเดอร์ (มีผลกับออเดอร์นั้นๆเท่านั้น)
- ในตั้งค่าร้าน (มีผลกับออเดอร์ที่จะเปิดใหม่)
11. ชำระยังไง
- แจ้งชำระแบบทีละออเดอร์ คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีชำระ
- แจ้งชำระรวมหลายออเดอร์ สามารถใช้เลือกชำระรวมออเดอร์ที่มาจากร้านขายส่งเดียวกันเท่านั้น คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีชำระ
**ถ้ามีการโอนยอดไปแล้วจำนวนหนึ่ง แล้วมีการแก้ยอด เช่น เพิ่มค่าส่ง หรือ เพิ่ม/ลดสินค้า สามารถทำการชำระเพิ่มไปได้ (1 ออเดอร์มีได้หลาย payment หรือ refund ก็ได้)**
12. ดูเลขพัสดุ จัดส่ง ยังไง
ในการเป็นตัวแทนขายแบบ Dropship เราจะไม่ได้สต๊อกสินค้าเอง และรอร้านผู้ขายส่งเป็นผู้จัดส่ง ดังนั้นเมื่อสถานะออเดอร์เป็น “รอผู้ขายส่ง > จัดส่ง”เราก็แค่รอเลขพัสดุจากร้านขายส่ง โดยเราจะได้แจ้งเตือนในแอปเมื่อทางร้านผู้ขายส่งบันทึกจัดส่ง โดยลิงก์ออเดอร์ที่เราคัดลอกมาตอนที่สร้างออเดอร์เสร็จ ก็จะมีเลขพัสดุ และ สถานะการจัดส่ง(หากเลขติดตามพัสดุออกจากระบบ XSelly) อยู่ในลิงก์นั้นด้วย ทำให้ลูกค้าของเราติดตามการจัดส่งได้เอง